บทความนี้จะพูดถึงข้อที่ควรรู้ เกี่ยวกับไม้ Laminate เช่น การติดตั้ง , ข้อดี – ข้อเสีย , ข้อควรปฏิบัติ เเละสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไว้ใช้เป็นข้อมูลในการตกแต่งและออกแบบบ้าน หรือใช้ในการตัดสินใจ
คุณสมบัติและประโยชน์ในการนำไปใช้งาน
- ทนต่อรอยขีดข่วน หรือกระทั่งกรงเล็บของสัตว์เลี้ยงของท่าน
- ทนต่อแรงตกหรือกดกระแทก
- ทนความร้อนของก้นบุหรี่ และคราบของนิโคตินสามารถเช็ดออกได้โดยง่าย
- ไม่เป็นคราบ สามารถเช็ดออกได้ง่าย
- สีและลายไม่ซีดจาง แม้จากการตากแดดโดยตรงก็ตาม
- ดูแลรักษาความสะอาดง่าย และทนต่อน้ำยาทำความสะอาดต่างๆที่ใช้ภายใน บ้าน ไม่สามารถทำให้ผิวหน้าเป็นรอยได้
- ปลอดภัยเนื่องจากพื้นลามิเนตไม่มีขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้สาร Dioxins จึงปลอดภัยต่อ สุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยพื้นผิวที่สะอาดถูกสุขอนามัยไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้
- แข็งแรงมาก แม้การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ทำให้เกิดรอย (สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำเมื่อวางของหนักๆบนพื้นก็คือใช้สักหลาดรองส่วนที่ สัมผัสกับพื้นเท่านั้นเอง)
- ติดตั้งได้ง่ายและเร็ว สามารถติดตั้งทับบนพื้นเดิมได้เลย
ข้อควรปฏิบัติสำหรับการใช้งานพื้นไม้ Laminate
- คิดถึงสถานที่ที่คุณจะปูพื้น ตัดสินได้จากการเดินผ่านไปมาว่ามากน้อยขนาดไหนและระดับความชื้น เพื่อที่คุณจะสามารถตัดสินใจได้ว่าพื้นแบบไหนเหมาะที่สุด อย่าลืมเช็ค AC rating ด้วย
- เลือกแผ่นรองที่สามารถป้องกันความชื้นที่มาจากใต้พื้นได้
- อ่านคู่มือการติดตั้งอย่างละเอียด
- จ้างช่างมาถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะทำได้
- ต้องมั่นใจว่าชั้นใต้พื้นได้ระดับ สะอาดและแห้ง
- เมื่อคุณปูพื้นไม้ลามิเนต คุณควรจะเว้นระยะห่างจากเส้นรอบวงของบริเวณที่คุณจะปูสัก 10 มม. ซึ่งรวมไปถึงการเว้นระยะห่างนี้ให้กับเครื่องเรือนหรือวัสดุที่เคลื่อนย้าย ไม่ได้ด้วย คุณควรเว้นไว้เพราะต้องเผื่อการขยายตัวด้วย เมื่อใช้ไปพื้นไม้ลามิเนตจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิบ้าง
- เมื่อปูพี้นไม้ลามิเนตไปแล้ว ถ้าเกิดมีอะไรหกลงพื้นก็ควรทำความสะอาดอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน
- ใช้ไม้ม๊อบหมาดๆหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด
- ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วน
- ถ้าทำได้ก็ให้ยกเฟอร์นิเจอร์หนักๆอย่าลากไปตามพื้น
- นอกจากแผ่นรองขาแล้ว ให้ใช้ชิ้นผ้ารองเฟอร์นิเจอร์หนักๆใหญ่ๆก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมันบนพื้นลามิ เนตของคุณ ถ้ามันหนักมากก็อย่าลืมหาผู้ช่วยมาด้วย
- ถ้าห้องของคุณถูกแสงแดดโดยตรงก็ควรปิดผ้าม่านหรือที่บังแดดเพื่อลดโอกาสการเกิดสีซีดจาง
ข้อควรหลีกเลี่ยงสำหรับการใช้งานพื้นไม้ลามิเนต
- การปูพื้นไม้ลามิเนตบนพื้นพรม
- ปูพื้นไม้ลามิเนตบริเวณที่ความชื้นสูง
- ปูทั้งๆที่แถวแรกมันเบี้ยว แถวแรกมีความสำคัญต่อการปูพื้นที่เหลือทั้งหมดมาก
- ใช้แว๊กซ์ น้ำยาขัดเงา หรือน้ำยาขัดพื้นทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต เพราะมันจะก่อความเสียหายได้
- การเคลือบเงาหรือขัดพี้นไม้ลามิเนต
- ใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของสบู่ หรือน้ำยาขัดเงาต่างๆบนพื้นไม้ลามิเนต
- เดินบนพื้นไม้ลามิเนตขณะสวมรองเท้าส้นแหลม หรือรองเท้ากีฬาที่ปุ่มมีโลหะหรือเดือย
- ราดน้ำลงบนพื้นเพื่อทำความสะอาด นั่นอาจทำให้พื้นไม้ลามิเนตของคุณกลายเป็นลอนๆได้
ข้อปฏิบัติก่อนการติดตั้งไม้พื้น Laminate Flooring
1. ตรวจสอบความชื้นของพื้นก่อนการติดตั้ง
โดยถ้าบริเวณพื้นที่จะติดตั้งไม้พื้น เป็นการคอนกรีตใหม่ที่มีการเทคอนกรีตที่ความหนา 10-15 ซม. ควรทิ้งระยะเวลาให้คอนกรีตเซ็ตตัวประมาณ 15 -20 วัน เพื่อให้พื้นแห้งสนิทก่อนป้องกันความชื้นจากพื้นที่จะขึ้นมาทำความเสียหายให้แก่พื้นไม้ ควรตรวจสอบพื้นที่เดิม ต้องไม่มีน้ำรั่วซึมทั้งบริเวณพื้นด้านล่างและด้านข้าง หากพบปัญหาต้องซ่อมแซมแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยก่อน
2. ตรวจสอบความสม่ำเสมอของพื้นก่อนการติดตั้ง
สำหรับพื้นที่จะทำการติดตั้งไม้พื้น Laminate Flooring จะต้องมีความสม่ำเสมอของพื้น ไม่นูนหรือเป็นแอ่ง ภายใน 1 ตรม. ควรมีระดับต่างกันไม่เกิน 1 -2 มม. สามารถทดสอบได้โดยการวางท่อนไม้ตรงหนึ่งท่อน ยาวประมาณ 1-1.5 เมตรและตรวจหาจุดต่ำบนพื้นที่ทำให้เกิดช่องระหว่างไม้ท่อนและพื้นล่าง ทำสัญลักษณ์บนพื้นจากหลาย ๆ มุมเพื่อให้รู้ว่าพื้นที่ที่จะต้องเสริมให้เต็ม กว้างเท่าไหร่
3. การเริ่มต้นการติดตั้งไม้พื้น Laminate Flooring
สำหรับพื้นที่เดิมที่เป็นกระเบื้องเซรามิก พื้นหินขัด พื้นแกรนิต พื้นกระเบื้องยาง สามารถติดตั้งไม้พื้น Laminate Flooring ทับได้โดยไม่ต้องมีการรื้อถอน ยกเว้นกรณีพื้นเดิมของลูกค้าเป็นพรม , พื้นไม้ปาร์เก้หรือกระเบื้องยางที่เกิดการชำรุดในลักษณะร่อนออกจากพื้นปูนใน กรณีนี้ลูกค้าควรที่จะต้องรื้อพื้นเดิมออกก่อนการติดตั้งพื้นไม้ เพื่อให้พื้นเกิดความเรียบร้อยสม่ำเสมอ
การเว้นระยะระหว่างความห่างของไม้พื้น
1. บัวพื้น (Baseboard)
เมื่อติดตั้งพื้นไม้มาถึงบริเวณผนัง ต้องเว้นระยะห่างระหว่างผนังกับไม้พื้นไว้ประมาณ 1 – 1.5 cm เพื่อให้ไม้พื้นได้ขยายตัวและทำการติดตั้งบัวพื้นบริเวณช่องดังกล่าว
2. ตัวที ( T-Moulding)
T-Moulding ใช้เชื่อมรอยต่อระหว่างวัสดุที่เหมือนกันหรือแตกต่างกัน เช่น พื้นไม้กับกระเบื้อง , พื้นไม้กับพื้นไม้(ธรณีประตู)
3. ตัวจบ Edging
Edging ใช้จบงานบริเวณระหว่างพื้นไม้กับผนังหรือขอบที่เป็นมุมฉากโดยไม่สามารถใช้บัวพื้นได้ เช่น บริเวณพื้นไม้กับเฟรมอลูมิเนียม
4. ตัวจบต่างระดับ (Transition)
Transition ใช้จบงานในกรณีที่พื้นไม้สูงกว่าพื้นที่เชื่อมต่อกัน เช่น บริเวณระดับพื้นหน้าห้องน้ำ เป็นต้น
ข้อดีของพื้นไม้ Laminate คือ สามารถเลือกสี หรือลายไม้ตามแบบที่เราต้องการได้ส่วนมากพื้นไม้ลามิเนตหนึ่งแผ่น จะประกอบด้วยชั้นต่างๆ กัน3-4 ชั้น แล้วนำมาอัดด้วยแรงดัน และความร้อนสูงทำให้พื้นไม้แบบลามิเนต มีการพองและหดตัวน้อยกว่าไม้จริงหลายเท่า
ข้อเสียของพื้นไม้ Laminate คือ อายุการใช้งานสั้นกว่าไม้จริง ไม่เหมาะสำหรับห้องที่มีความชื้นสูง และผิวสัผัสเวลาเดินไม่เหมือนไม้จริง
Credit
รูปภาพ : http://wallpaperwatch.us/ , http://dagsboropaint.com/ , https://www.homedit.com/ , http://eastcoastfl.com/
เนื้อหา : https://www.wazzadu.com/article/593